ที่มี ดร.ธีรารัตน์พันทวี วงศ์ธนะอเนก เป็นประธาน ถือเป็นฟันเฟืองและกลไกการทำงาน ภายใต้ คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนและติดตามมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพสังคม และสุขภาวะ
เป้าหมายขับเคลื่อน ๒ มติ ได้แก่ มติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ ๑ เรื่อง “ผลกระทบจากสื่อต่อเด็ก เยาวชนและครอบครัว” และมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ ๕ เรื่อง “การจัดการสภาพแวดล้อมรอบตัวเด็ก ๒๔ ชม. :กรณีเด็กไทยกับไอที” ให้มีความต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๕๙ ที่ประชุมมีการนำ (ร่าง) แผนการดำเนินงานของคณะทำงานฯ ภายใต้กรอบ
ระยะเวลา ๑ ปี (พฤษภาคม ๒๕๕๙ - เมษายน ๒๕๖๐) มาหารือ เพื่อสรุปแนวทางการดำเนินงาน และงบประมาณ
ที่จะมารองรับ โดยเห็นชอบแผนปฏิบัติงาน ๔โครงการประกอบด้วย
๑.โครงการพัฒนากฎหมายว่าด้วยการคุ้มครอง ส่งเสริมเด็ก และเยาวชนในการใช้สื่อออนไลน์
๒.พัฒนาระบบอินเตอร์เน็ตที่ปลอดภัยสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า ๑๓ ปี
๓.พัฒนาระบบเฝ้าระวัง และ ๔.ติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
“ในช่วงสิ้นปีนี้ คณะทำงานฯ จะนำเสนอรายงานความก้าวหน้าจากการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน
ต่อที่ประชุม สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ ๙ ในเดือนธันวาคม ๒๕๕๙ เพื่อเป็นเวทีให้ทุกภาคส่วนได้เข้าใจและ
เห็นภาพว่าเรื่องเด็กกับสื่อ ถือเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไข”
ในส่วนของ การพัฒนากฎหมาย ซึ่งหน่วยงานต่างๆได้ฝากความหวัง ว่าจะเป็นมาตรการบังคับ ที่จะทำให้การป้องกันเด็กจากสื่อออนไลน์ได้ผลมากที่สุด
นักวิชาการจากสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล หนึ่งในแกนหลักในการขับเคลื่อนการทำงาน กล่าวว่า
จะมีการค้นคว้าระบบกฎหมายของนานาประเทศ ที่มีมาตรการคุ้มครองเด็กจากสื่อ อาทิ ออสเตรเลีย อังกฤษและสหรัฐ พร้อมตั้งระดมนักกฎหมายที่เชี่ยวชาญและมีบทบาทในสังคม เช่น อาจารย์ คนึง ฦาไชย มาร่วมเป็นคณะกรรมการยกร่างฯ
ที่ประชุมมอบให้ รศ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก โรงพยาบาลรามาธิบดี เป็นแกนหลัก ในการขับเคลื่อนบนฐานความคิดว่า
“เด็กอายุต่ำกว่า ๑๓ ปี ควรถูกปกป้องคุ้มครอง ๑๐๐%”
โดยจะเริ่มต้นการทำงานด้วยการสำรวจความเห็นจากเด็กผู้ปกครอง รวมทั้งจัดเวทีเพื่อถ่ายทอดแนวคิด เพราะเรื่องนี้ไม่ได้เป็นมาตรการบังคับ จะต้องรณรงค์ให้ผู้ปกครองเห็นความสำคัญและควบคุมสื่อที่มาถึงตัวเด็กได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น โดยเฉพาะที่ผ่าน สมาร์ทโฟน