คุมเข้ม!! อันตรายประทัดลูกบอล
ทีมข่าว บุกแฉ กระแสดัง สัมภาษณ์ รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์
ผู้อำนวยการ สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว
ร่วมกับศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยในเด็ก รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ในประเด็น อันตรายประทัดลูกบอล ที่เกิดการบาดเจ็บในเด็ก
นายแพทย์ธนิษฐ กมลอดิศัย แพทย์เวชกรรมโรงพยาบาลบ้านบึง จ.ชลบุรี เผยว่า หากตรวจผลเลือดเด็ก พบว่าดีขึ้น ก็จะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ซึ่งสาเหตุที่เด็กชายได้รับบาดเจ็บ เพราะว่าเล่นประทัดลูกบอลที่บ้าน แล้วบังเอิญโยนใส่ขวดโซดา ขวดเกิดระเบิดรุนแรง ใส่ที่มือ – แขน ขวดแก้วแตกกระจายบาดเข้าลึกถึงกล้ามเนื้อ เลือดออกมาก พอถึงห้องฉุกเฉินแพทย์ได้พยายามหยุดเลือดให้ เพราะเด็กเสียเลือดมาก และความดันต่ำ แถมพบกระดูกแขนขวาหัก จึงทำการใส่เฝือกเอาไว้ ยังเคราะห์ดีเศษแก้วไม่ได้บาดเข้าเส้นเลือดใหญ่ จึงสามารถเย็บปิดบาดแผลได้ จนอาการของน้องดีขึ้นและปลอดภัย สำหรับในช่วงเทศกาลลอยกระทงจะมีคนไข้ที่ได้รับบาดเจ็บจากประทัดระเบิดใส่เป็นประจำทุกปี บางรายถือประทัด แล้วระเบิดคามือ ทำให้มือขาดก็มี
ด้านแม่ของเด็ก บอกว่า รู้สึกเบาใจขึ้นมากที่ลูกชายปลอดภัยไม่ถึงขั้นสูญเสียอวัยวะหรือถึงแก่ชีวิต ที่ผ่านมา พ่อและแม่ ก็พยายามเตือนลูกตลอด ห้ามไม่ให้เล่นประทัด แต่วันเกิดเหตุ แม่ออกไปซื้อกับข้าวที่ตลาด ให้ลูกอยู่คนเดียวที่บ้าน กะว่าจะรีบไปรีบกลับ ไม่คิดว่าลูกจะแอบไปซื้อ และนำประทัดลูกบอลมาจุดเล่น จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เชื่อว่า เหตุครั้งนี้ จะเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ที่ชีวิตลูกชายขณะที่ก็ให้อุทาหรณ์ ว่าต้องระมัดระวังมากกว่าเดิม คอยสอดส่องเรื่องของเล่นลูกเพราะเหตุแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเสี้ยววินาที จึงอยากฝากถึงผู้ประกอบการร้านค้า อย่านำประทัดลูกบอลมาขายให้กับเด็กเลย เพราะอันตรายมาก
ขณะที่คนในหมู่บ้าน ต่างผวา เกรงจะเกิดอันตรายขึ้นกับลูกหลานตัวเอง ช่วงนี้จึงเฝ้าระวังไม่ให้คลาดสายตา หมั่นสอบถามเวลาให้เงินลูก – หลาน ไปซื้อของเล่นก็จะค่อยสังเกตดู ยิ่งใกล้ช่วงลอยกระทงแบบนี้ ต้องจับตาเรื่องประทัดที่อันตรายเป็นพิเศษ
ด้านผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านบึง เผยว่า หลังเกิดเหตุได้ทำการจับกุมร้านค้าที่จำหน่ายประทัดลูกบอลให้กับเด็กชายที่บาดเจ็บแล้ว พร้อมแจ้งข้อหาคือ “จำหน่ายดอกไม้เพลิง โดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษปรับ 1,000 บาท และยึดของกลางไว้ทั้งหมด รวมถึงลงพื้นที่ตรวจตราร้านค้าต่างๆ ในชุมชน พร้อมประชาสัมพันธ์ไม่ให้จำหน่ายประทัดและพลุทุกชนิด เพราะถือเป็นสินค้าต้องห้าม ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 1,000 บาท หรือจำคุกหนึ่งเดือน หรือทั้งจำ ทั้งปรับ
ใกล้วันลอยกระทงแล้ว ก็หวังว่าเรื่องนี้จะเป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกฝ่ายและในทุกพื้นที่ เพื่อให้เทศกาลลอยกระทง มีแต่ความสนุกสนาน ไม่เกิดเหตุร้ายใดๆ ตามมา
ด้าน นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ในฐานะหัวหน้าศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก โรงพยาบาลรามาธิบดี ระบุกลุ่มเด็ก คือ กลุ่มเสี่ยง ที่ได้รับอันตรายจากการเล่นพลุ ประทัด และดอกไม้เพลิง ซึ่งจัดเป็นวัตถุระเบิด ไม่ใช่ของเล่นสำหรับเด็กๆ
สถิติที่ผ่านมา พบมีผู้บาดเจ็บทั้งผู้ใหญ่และเด็กมากถึง 500 รายต่อปี ในจำนวนนี้เกือบครึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ที่น่าตกใจ คือ มีการนำพลุ ดอกไม้ไฟ ไปดัดแปลงใส่ขวดแก้วหรือกระป๋องแล้วจุด ยิ่งเพิ่มอานุภาพของแรงระเบิดทำให้เศษวัสดุ ไปบาดใบหน้าและนิ้วจนขาด บางรายถึงขั้นตาบอด ทางที่ดี ผู้ปกครองควรห้ามบุตรหลาน ไม่ให้เล่นอะไรที่เสี่ยงอันตราย
ออกอากาศทางช่อง7HD วันที่ 21 พ.ย.2561