หลังราชกิจจานุเบกษาปรับกฎหมายจราจรทางบกใหม่ หมอออกมาย้ำจำเป็นต้องใช้ ‘คาร์ซีท’ แม่อุ้มไม่ปลอดภัยพอ ( PPTV 10 พ.ค.2565 )

หลังราชกิจจานุเบกษาปรับกฎหมายจราจรทางบกใหม่ หมอออกมาย้ำจำเป็นต้องใช้ ‘คาร์ซีท’ แม่อุ้มไม่ปลอดภัยพอ

หลังราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2565 ปรับกฎหมายจราจรทางบก เด็กไม่เกิน 6 ปี สูงไม่เกิน 135 ซม. ต้องนั่งคาร์ซีท หากฝ่าฝืนมีโทษปรับ 2,000 บาท และมีผลบังคับใช้อีก 120 วันนับแต่ประกาศนั้น

ซึ่งมีการยืนยันจาก นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล และหัวหน้าศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยในเด็ก รพ.รามาธิบดี ที่แถลงข่าว ในหัวข้อ “120 วัน บังคับใช้กฎหมายที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก ใครต้องทำอะไร”

นพ.อดิศักดิ์ ย้ำว่า การอุ้มเด็กนั่งบนตักพ่อแม่และคาดเข็มขัดนิรภัย นพ.อดิศักดิ์ ระบุว่าไม่ได้ทำให้ปลอดภัย เพราะเวลาเกิดอุบัติเหตุจะมีพลังงานการเคลื่อนที่ทำให้อ้อมกอดของแม่ ไม่สามารถรั้งลูกไว้อยู่ เด็กอาจกระเด็นออกนอกรถและเสียชีวิตได้ และถ้าเป็นรถยนต์ที่มีถุงลมนิรภัย การอุ้มเด็กนั่งบนตักทำให้เด็กเข้าใกล้ถุงลมนิรภัยเกินไป เวลาเกิดอุบัติเหตุจะมีพลังงานย้อนกลับ ทำให้เกิดอันตรายต่อตัวเด็ก

นพ.อดิศักดิ์ ยังได้แนะนำคาร์ซีทที่เหมาะสำหรับเด็กแต่ละวัย โดยระบุว่า คนไม่ค่อยรู้ว่าเด็กทารก ก็สามารถใช้คาร์ซีทได้แล้ว โดยเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึง 2 ปี ควรใช้คาร์ซีทบนที่นั่งด้านหลังและหันหน้าไปด้านหลังเท่านั้น ไม่ควรให้เด็กนั่งหันหน้าไปด้านหน้า เพราะเวลาเกิดอุบัติเหตุคาร์ซีทจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการกระแทกกับศีรษะหรือตัวของเด็กได้



> แถลงข่าวด่วน!! หมออดิศักดิ์ เผยรอ กฎหมายคาร์ซีตมา 20 ปี ไม่ควรยืดอีก ( 10 พ.ค.2565 )


 

โปรดแสดงความคิดเห็น