แม้เหตุร้ายแรงข้างต้นอาจจะไม่เกิดขึ้นบ่อยแต่ก็ไม่ควรประมาทครับ รวมทั้งสิ่งที่พบได้บ่อยๆก็ไม่ค
วรละเลยเป็นอันขาด นั่นก็คือ …
การปล่อยให้เจ้าตัวเล็กที่เห็นอะไรๆก็หยิบเข้าปาก หยิบๆจับๆเจ้าถ่านไฟฉายหมดอายุเน่าๆมีน้ำย้อยเยิ้มออกมา เผลอๆก็จับเข้าปากหมับแล้วดูดเล่นเคี้ยวเล่นอย่างเพลิดเพลิน !!!
ถ่านไฟฉายและแบตเตอรี่เมื่อตกอยู่ในสภาพเก่าเก็บก็มัก
จะเป็นเช่นนี้ สิ่งที่ไหลเยิ้มย้อยออกมาซึ่งมี
กลิ่นคล้ายสนิมเหล็กนั้น มันก็คือสารเคมีสารพัด ที่ล้วนแล้วมีพิษภัย ไม่ว่าจะเป็นสารแคดเมียมปรอท ตะกั่ว นิกเกิล ลิเธียม และแมงกานีสไดออกไซด์…เป็นต้น
สารเคมีที่เสื่อมสภาพเหล่านี้ เพียงแค่ผิวได้สัมผัสก็ถือได้ว่
าอันตรายแล้ว
ยิ่งดูดกลืนเข้าไปยิ่งไม่ต้องพู
ดถึง รับเข้าไปน้อยก็จะสะสม และส่งผลร้ายต่อแทบทุกระบบในร่า
งกายทั้งระบบประสาท-ทางเดินอาหาร-ระ
บบหายใจ-เนื้อเยื่อ- เม็ดเลือดแดง
หากรับเข้าไปมากก็เสี่ยงต่อการถ
ูกกัดกร่อนอวัยวะภายใน แต่ไม่ว่าพิษที่ได้รับจะเป็นแบบ
เฉียบพลัน หรือ เรื้อรังผลร้ายก็ยังคงเสี่ยงต่อความเจ็บ
ป่วย อย่างน้อยเด็กๆก็เสี่ยงกับการพั
ฒนาการสมองได้ช้าลง สติปัญญาด้อยลงฯลฯพิการ หรือกระทั่งเสียชีวิต
โลกยุคไอที
ในบรรดาอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ชน
ิดพกพาแม้จะมีมากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น มือถือ ไอพอต ไอแพต แทบเล๊ต กล้องดิจิตอล Mp 3 แต่ทั้งหลายนี้โดยมากจะต้องใช้แ
บตเตอรี่ หรือถ่านไฟฉาย
(ถ่านนิกเกิลแคดเมียม ถ่านนิกเกิลเมทัลไฮไดรด์ ถ่านลิเทียม ถ่านAA และถ่านอัลคาไลน์ซึ่งมีทั้งแบบท
ี่สามารถนำมาประจุไฟใหม่ได้ (Rechargeable) หรือแบบใช้ได้ครั้งเดียวทิ้ง)

แต่ทั้งหมดนี้ในยามที่มันหมดอาย
ุ หรือเสียจนเกินที่จะซ่อม มันก็ล้วนกลายเป็น
“ซากขยะอิเล็กทรอนิกส์” หรือ ขยะประเภทที่มีสารเคมีตกค้าง ซึ่งอันตรายทั้งต่อสุขภาพของสิ่
งที่มีชีวิตและ ทำลายสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
แต่ที่น่าแปลกใจและน่ากังวลก็คื
อ ในบ้านเรานั้นขาดความชัดเจนและจ
ริงจังในการกำจัดซากขยะอิเล็กทร
อนิกส์ซึ่งน่าจะมีเข้ามาทุกวันๆ
ถังขยะของกทม.ที่หน้าถังระบุไว้
ว่าสำหรับทิ้งขยะดังกล่าวโดยเฉพ
าะ บัดนี้กลับกลายเป็นของหายากมากไ
ปแล้ว ก็เหมือนกับหน่วยงานหรือบริษัท ที่เคยรณรงค์ในเรื่องนี้อย่างคึ
กคักก็กลับแผ่วปลายและเงียบหาย
ยังเหลืออีกหนทางที่เคยมีผู้แนะ
นำ นั่นก็คือ

ให้รวบรวมขยะประเภทนี้ใส่ลงถุงดำ แล้วเอาสตริกเกอร์ที่เขียนไว้ว่าขยะพิษ แปะติดที่หน้าถุง เพื่อพนักงานเก็บขยะจะได้ นำถุงขยะพิษไปแยกทิ้งลงช่องรับขยะพิษ(อยู่ที่ท้ายรถเก็บขยะ) เมื่อไปถึงโรงกำจัดขยะ เหล่าขยะพิษก็จะผ่านขั้นตอนบำบัดทางเคมีก่อนก่อนฝังกลบต่อไป
เพื่อปกป้องลูกจากแบตเตอรี่ หรือ ถ่านไฟฉาย คุณพ่อคุณแม่จึงต้องให้การเอาใจใส่
และแนะนำเด็กๆ ดังนี้ครับ
1…พวกถ่านไฟฉายและแบตเตอรี่ที่เตรียมทิ้งนั้น นอกจากรวบรวมใส่ถุงดำแล้วก็ควรมัดปากถุงให้แน่น
และเก็บไว้ในที่เด็กนำไปเล่นไม่ได้
2… ไม่นำไปทิ้งลงแม่น้ำ ลำคลอง ท่อระบายน้ำ หรือในแหล่งน้ำต่างๆ เพราะหากทำเช่นนั้น (ฝังดิน หรือโยนลงแหล่งน้ำ)สารพิษดังกล่าวปนเปื้อนทั้งแหล่งดิน แหล่งน้ำ แล้วก็จะซึมผ่านชั้นดินและแหล่งน้ำส่งผ่านต่อมายังพืช และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ต่อไป
3.. ไม่ทำลายโดยนำไปเผาไฟ เพราะนอกจากทำให้เกิดมลพิษที่คลุ้งไปทั่ว การกระทำเช่นนั้น ละอองไอของสารเคมีจะฟุ้งไปทั่ว ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ เกิดพิษภัยแก่ผู้ที่อยู่รอบๆบริเวณดังกล่าว แถมยังอาจเกิดระเบิดตูมตามขึ้นมาได้
เมื่อพูดกันถึงเรื่องของถ่านไฟฉาย หรือ แบตเตอรี่ที่ใช้กับอุปกรณ์อิเลคโทรนิก ก็คงมองข้ามเรื่องของ “แบตระเบิด”มิได้
เพราะเหตุว่ามันปรากฏเป็นข่าว หลายต่อหลายครั้ง และหากทั้งคนขาย คนซื้อและผู้ใหญ่ที่มีอำนาจหน้าที่ ยังไม่มีการป้องกันแก้ไข เหตุร้ายดังกล่าว ก้อาจเกิดขึ้นอีกอย่างไม่สิ้นสุด อยู่ที่ว่าใครจะเป็น “เหยื่อ”ในรายต่อไป
** หนุ่มเมืองกาญจน์ชาร์จแบตมือถือระเบิดโดนใบหน้าสะเก็ดเข้าตาหวิดตาบอด (นสพ.คมชัดลึก)
** โทรศัพท์มือถือ หล่น เอื้อมไปหยิบ …ระเบิดตูม!นิ้วฉีกต้องเย็บ 4 เข็ม (นสพ.คมชัดลึก)
**หนุ่มจีน มือถือระเบิดขณะเชื่อมเหล็กในโรงงาน แรงระเบิดทำให้ซี่โครงหัก และเสียชีวิต(ข่าวออนไลน์)
** หนุ่มเกาหลีชะตาขาด มือถือตูมคาอกเสื้อ ตาคาที่ทำงาน (ข่าวออนไลน์)
จริงอยู่แบตเตอรี่มือถือทุกวันนี้ แทบทุกยี่ห้อได้เปลี่ยนจากนิกเกิล ไฮดราย มาเป็น“ลิเธียม – ไอออน”

ทั้ง นี้แบตเตอรี่ลิเธียม – ไออนถูกประดิษฐ์ขึ้นมาแทนที่นิกเกิล ไฮดราย นั้นมีคุณสมบัติพิเศษ คือ
ซึ่งมีน้ำหนักเบา แถมสะสมพลังงานได้มากกว่าแบตเตอรี่ชนิดอื่น ๆ
แต่การที่แบตเตอรี่ลิเธียม – ไออนมีส่วนผสมของ“โคบอลต์ออกไซด์”
ทำให้เมื่อโดนความร้อนสูงขึ้นถึงระดับหนึ่งจะเกิดปฏิกิริยาเร่งความ ร้อนสูงยิ่งขึ้นไปอีก และมีโอกาสเสี่ยงที่แบตเตอรี่จะบวมไหม้ หรือ อาจระเบิดได้
แต่ นั่นก็ยังขึ้นกับระบบต่างๆ หรืออุปกรณ์ ชิ้นส่วนภายใน ระบบชาร์จไฟของทั้งแบตเตอรี่ และของมือถือนั้นๆด้วยว่ามีมาตรฐานความปลอดภัยอย่างไร หรือไม่ รวมทั้งขั้นตอนการผลิตที่บกพร่องโดยอาจเริ่มมาตั้งแต่ในโรงงานผลิตกันเลยทีเดียว
ส่วนการชาร์จไฟก็ควรต้องระวังเช่นกันครับ แม้โทรศัพท์ หรือแบตจะมีตัวสั่งให้หยุดชาร์จอัตโนมัติ แต่เพื่อความปลอดภัยจึงไม่ควรชาร์จนานเกิน 24 ชั่วโมง (อย่าลืมอ่าน ข้อปฏิบัติต่างๆ ที่ระบุไว้ในตามคู่มือนั้นๆด้วยนะครับ)

เลือกแบตเตอรี่ และถ่านไฟฉายอย่างไรให้ปลอดภัย ?
พบว่า แบตเตอรี่มือถือ(รวมทั้งถ่านไฟฉาย)ที่เกิดระเบิดขึ้นมานั้น มักไม่มีเครื่องหมาย มอก.
นั่นหมายถึงมันเป็น แบตเตอรี่เถื่อน หรือแบตเตอรี่ปลอม
แบตเตอรี่ที่ได้มาซึ่งเครืองหมาย มอก.( มอก 2217-2548) ถือว่ามั่นใจได้ เพราะมอก.บ้านเรายุคนี้มีมาตรฐานเทียบเท่ามาตรฐาน IEC ของยุโรป
ดังนั้นทุกครั้งที่หาซื้อถ่านไฟฉาย หรือแบตเตอรี่ ถ่านชาร์จ ให้เลือกที่มีเครื่องหมาย มอก. 2217-2548 เอาไว้ ที่มักเป็นฉลากสตริกเกอร์แปะติดไว้บนกล่อง หรือตัวสินค้านั้นๆ
เวลาซื้อสินค้า อย่าเลือกร้านที่ดูไม่น่าไว้ใจ เช่น ตามแผงลอย หรือแม้แต่ร้านค้าที่ขายใน ราคาถูกว่าปกติมาก นั่นย่อมเสี่ยงที่จะเจอ “ของปลอม” และหากหลงไปซื้อของปลอมมาใช้เข้า ก็มักสังเกตได้ว่า แม้ชาร์จแบตจนเต็มปรี่แล้ว แต่เวลาในการใช้งานกลับสั้นกว่าปกติมาก

www.csip.org