ควันบุหรี่มือสองสัมพันธ์กับการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคในเด็กหลายอย่าง
เช่น การตายอย่างเฉียบพลันในวัยทารก
ทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจหลายอย่าง ทำให้อาการหอบหืดแย่ลง
ทำให้เกิดโรคของหูชั้นกลาง และทำให้การ
เจริญเติบโตของปอดช้าลง
นอกจากนี้เด็กที่ได้รับควันบุหรี่มือสองในบ้านสัมพันธ์กับการเข้ารับบริการที่ห้องฉุกเฉินมากขึ้น
และต้องนอนโรงพยาบาลนานขึ้น
และมีค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพมากขึ้น
และที่สำคัญเด็กที่อยู่ในบ้านที่มีคนสูบบุหรี่ก็มีแนว
โน้มที่จะเริ่มสูบบุหรี่ในอนาคตมากกว่า
จึงเป็นที่มาของการทำวิจัยในโครงการบ้านปลอดบุหรี่เพื่อลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ในบ้านแล้วส่งผลกระทบต่อเด็กที่อาศัยใน
บ้าน โดยได้เริ่มดำเนินการระยะที่ 1 กับกลุ่ม
Control group และเข้าสู่ระยะที่ 2 กับกลุ่ม
Intervention group เพื่อ
เปรียบเทียบกัน และได้จัดกิจกรรมกลุ่มย่อยครอบครัว
เพื่อเพิ่มความรู้ความเข้าใจเรื่องอันตรายจากควันบุหรี่มือสอง แลก
เปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับการไม่สูบบุหรี่ในบ้าน(ที่มีเด็ก)
รวมถึงการพยายามเลิกบุหรี่ เพื่อเรียนรู้ร่วมกันและมีกำลังใจ
ที่จะไม่สูบบุหรี่ในบ้านที่มีเด็ก
|