รศ.นพ. อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า
“ผมรู้สึกมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับเชฟโรเลต ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายรถชั้นนำในประเทศไทยและให้การสนับสนุนและส่งเสริมความปลอดภัยในเด็กด้วยการดำเนินโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม เนื่องจากเด็กเป็นผู้โดยสารที่ต้องการความปลอดภัยมากกว่าผู้ใหญ่ เพราะพวกเขาไม่สามารถปกป้องตนเองได้ โครงการนี้จะช่วยรณรงค์ให้ความรู้พ่อแม่และผู้ปกครองได้ตระหนักถึงความสำคัญและวิธีการติดตั้งที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กทุกช่วงอายุอย่างถูกต้อง ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการนี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยสำหรับเด็กในการโดยสารรถ”
รศ.นพ. อดิศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การติดตั้งที่นั่งนิรภัยในรถจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยสำหรับผู้โดยสารเด็กให้สูงขึ้นถึง 70 เปอร์เซ็นต์ และแนะนำพ่อแม่ผู้ปกครองควรให้เด็กนั่งเบาะที่นั่งด้านหลัง เนื่องจากมีความปลอดภัยมากกว่าการนั่งเบาะที่นั่งด้านหน้าถึงห้าเท่า
“เชฟโรเลต และศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก โรงพยาบาลรามาธิบดี มีเป้าหมายเดียวกัน ในการกระตุ้นให้คนไทยตระหนักถึงความปลอดภัยสำหรับเด็กในรถ เราจึงริเริ่มโครงการคุณหนูปลอดภัยในยานยนต์ขึ้นมา ด้วยการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เราหวังว่าจะโครงการนี้ช่วยกระตุ้นให้คนไทยมีความตระหนักถึงการใช้ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กมากขึ้น ไม่เพียงในรถเชฟโรเลตเท่านั้น แต่รวมถึงรถทุกรุ่น ทุกแบรนด์ที่มีเด็กนั่งโดยสารไปด้วย เราให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการตัดสินใจของผู้ใหญ่ทุกคนที่เดินทางพร้อมกับเด็ก ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ผู้ปกครอง คุณครู หรือผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของเด็ก” คุณจีรณัฐ แสงดี ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทยกล่าว
เชฟโรเลตสนับสนุนโครงการคุณหนูปลอดภัยในยานยนต์ภายใต้แนวคิด “ติดตั้ง-นั่ง-ปลอดภัย” ด้วยการจัดกิจกรรมโรดโชว์ตามโรงเรียน และในงานจัดแสดงรถต่างๆ ทั่วประเทศในปีนี้ โดยการใช้มาสคอต “เชฟวี่และจีจี้” ตัวการ์ตูนที่มีทั้งความน่ารักและเป็นมิตรกับเด็กๆ เพื่อกระตุ้นให้ตระหนักถึงความปลอดภัย
“กิจกรรมรับผิดชอบต่อสังคมของจีเอ็ม เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายและค่านิยมของ
บริษัทฯ นั่นคือการดูแลลูกค้าของเราตลอดไป เป้าหมายและค่านิยมดังกล่าวกระตุ้นให้เราดูแลและพัฒนาชุมชนที่เราอาศัยและทำธุรกิจอยู่ทั่วโลก เพราะเราให้ความสำคัญแก่ลูกค้าสูงสุด ด้วยการให้ลูกค้าเป็นหัวใจในทุกสิ่งที่เราทำ” คุณจีรณัฐกล่าวเพิ่ม
สำหรับในปี 2559 ความมุ่งมั่นดำเนินโครงการรับผิดชอบต่อสังคมของจีเอ็มในประเทศไทยคือ “การขับเคลื่อนเพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดียิ่งขึ้น” หรือ “Driving A Better Tomorrow” โดยกิจกรรมจะแบ่งออกเป็นสามเสาหลัก ประกอบด้วย ความปลอดภัยที่มากยิ่งขึ้น การศึกษาที่ดีขึ้น และการมีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น