“เรามั่นใจว่าทักษะในการชกมวยไทย เป็นคนละเรื่องกันกับการเอาเด็กขึ้นไปชกในมวยอาชีพ และเกิดการบาดเจ็บบนเวทีมวย” ภาพความชินตาของเวทีมวยรุ่นเล็กที่มีอยู่ในสังคมไทยมาอย่างยาวนาน หลายคนสนุกไปกับเกมบนสังเวียน แต่เมื่อไม่นานมานี้ทางทีมแพทย์และนักวิจัยจากศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้เปิดเผยผลการวิจัยสมองของนักมวยเด็ก พบว่า
สมองในนักมวยเด็กนั้นได้รับความเสียหาย โดยลักษณะที่พบส่วนใหญ่คือ ใยประสาท และเซลล์สมอง ฉีกขาดออกจากกัน อันเกิดจากแรงกระแทกบริเวณศีรษะ การเกิดภาวะเสียหายของใยประสาทและเซลล์ประสาท รวมไปถึงปริมาณธาตุเหล็กที่สูงนั้น ทำให้เกิดภาวะของสมองรวน และส่งผลทางด้านความจำ สมองเสื่อม เมื่อภาวะน้ำในสมองมาก จนอาจสกัดกั้นการเจริญเติบโตในสมอง
เราต้องการจะรักษาศิลปวัฒนธรรมของไทย แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องดูเเลสมอง ของเด็กซึ่งเป็นอนาคตของชาติ วันนี้มีการพุดคุบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนของภาครัฐและภาคเอกชน ค่ายมวยต่างๆ ทุกคนเริ่มเห็นพ้องกัน และจากการประเมินของเราพบว่า ค่ายมวยที่นำเด็กมาตรวจนั้นมีความสัมพันธ์ระหว่างตัวเด็กและครูมวยที่ดี แต่ละคนมีการดูเเลเด็กที่ดี เด็กที่มารับการตรวจกับเราเกือบทั้งหมดได้รับการศึกษา บางคนมาจากครอบครัวยากจน ก็ได้รับการศึกษา ได้ระเบียบวินัย เป็นความรักความเอาใจใส่ของค่ายมวย
ซึ่งเทียบกับในอดีตเราอาจจะได้ยินการบังคับเด็กในค่ายมวยต่างๆ นานา แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันข้อเสียยังมีอยู่ เช่น การขึ้นชกบ่อยเกินไป ซึ่งอาจไม่ได้ตั้งใจเลยทีเดียว แต่เมื่อผลวิจัยออกมา ทุกคนก็ให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง
เรื่องนี้ รศ.นพ.อดิศักดิ์ มองว่า ถ้าเราอยากฝึกให้เด็กเก่งในอนาคต ไม่จำเป็นต้องใช้การฝึกที่ทำลายสมองในวัยเด็ก คนที่จะไปสู่จุดสูงสุดในอาชีพนี้มีน้อย หลายคนที่ไปไม่ถึงดวงดาว ก็ไม่สามารถกลับไปประกอบอาชีพปกติได้ หรือเรียนหนังสือต่อ ซึ่งเชื่อว่า ครูฝึกที่เป็นพี่เลี้ยงอาจสงสัยว่าเป็นได้หรือ แต่ถ้าได้คุยกันจริง ด้วยความห่วงใยของเรา จะทำให้เกิดการรับฟัง และสร้างการเปลี่ยนแปลง
ต้องเรียนให้ทราบว่าสมองของคนเราจะเติบโตไปเรื่อยๆ จนอายุ 30 กว่า แล้วค่อยๆ ลดลง รศ.นพ.อดิศักดิ์ อธิบายพัฒนาการทางสมองของมนุษย์ก่อนจะสรุปข้อเท็จจริงให้ฟังว่า
ฉะนั้นระยะเวลาปลอดภัยไม่มี เราจะเห็นว่า แม้กระทั่งนักมวยรุ่นใหญ่ที่ต่อยไปนานๆ ก็ส่งผลต่อการใช้ชีวิตโดยเฉพาะเรื่องของสมอง
ถ้าการชกมวยเพื่อการน็อค ยังไงก็ต้องเล็งศีรษะ ซึ่งจากการสำรวจพบว่า เด็กจะถูกต่อยบริเวณหัว 40 หมัดต่อหนึ่งยก เพราะเป้าหมายสูงสุดของแต่ละแมตช์คือการน็อคคู่ต่อสู้ให้ได้
@ทำไมเด็กถึงสามารถต่อยอาชีพได้ กฎหมายมีช่องโหว่หรือเปล่า
รศ.นพ.อดิศักดิ์ กล่าวว่า พ.ร.บ.มวยเป็นจุดเเรกที่ต้องแก้ไข เพราะ พ.ร.บ.มวยอาชีพในนั้นมีนิยามว่านักมวยคืออะไร เงินรางวัลเท่าไร ดังนั้นพ.ร.บ.ดังกล่าวจึงเขียนขึ้นเพื่อการประกอบอาชีพโดยเฉพาะ ซึ่งกำหนดว่านักมวยต้องอายุเกิน 15 ปี แต่มามีปัญหาว่ามีนักมวยเด็กชกมวยมากมาย และเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เป็นนักมวยเถื่อน กฎหมายไม่คุ้มครอง เมื่อบาดเจ็บต้องรักษาตัวเอง คนที่ร่างตอนนั้นก็พยายามหาทางออกครึ่งทาง โดยการเอาเด็กมาลงทะเบียน เพื่อให้เด็กมีตัวตน เลยมีมาตราที่ว่าเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ชกได้ แต่ต้องมีผู้ปกครองมารับรองในการลงทะเบียนครั้งแรก
ณ วันนี้ผู้ที่ทำงานด้านกีฬาและทำงานคุ้มครองเด็ก เห็นพ้องกันเเล้วว่า เด็กไม่ควรไปประกอบอาชีพเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว โดยเฉพาะอาขีพที่เป็นอันตราย อาชีพที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย ทั้งยังไปผิดหลักการของ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กอีกด้วย กฎหมายสองตัวเลยขัดแย้งกัน หรือแม้แต่ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานเองก็ไม่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ประกอบอาชีพ
เขาระบุต่อว่า สิ่งแรกต้องทำเพื่อการจัดการปัญหาเรื่องนี้ คือ ต้องตัดมาตราที่บอกว่าให้เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ลงทะเบียนเป็นนักมวยอาชีพได้ ออกไปก่อน ไม่สามารถประกอบอาชีพนักมวยได้ แล้วค่อยไปร่างพ.ร.บ. หรือออกกฎระเบียบใหม่ เกี่ยวกับกีฬามวยสมัครเล่นอีกฉบับหนึ่ง ให้เป็นเรื่องของกีฬา ไม่ใช่เรื่องของอาชีพ
รศ.นพ.อดิศักดิ์กล่าวในตอนท้าย