ความสะดวกสบายสนุกสนานในรถยนต์ของเด็ก จะไม่สมดุลกับความปลอดภัย
จึงอยากให้พ่อแม่คำนึงถึงความปลอดภัยการเดินทางรถยนต์มากกว่า
พิธีกรข่าว : ถ้าอย่างนั้น ปลอดภัยที่สุดก็คือ Baby Seat ของรถยนต์
รศ.นพ. อดิศักดิ์ : คือ Car Seat หรือนั่งปลอดภัยสำหรับเด็ก จะแบ่งคราวๆ มี 3 อายุ ของเด็กทารก เด็กอายุ 2 -5 ขวบ เด็ก 5 ขวบขึ้นไป ต้องเลือกให้เหมาะสมตามอายุแล้วก็ของรถยนต์ด้วยครับ
พิธีกรข่าว : Car Seat หรือ Baby Seat จะอยู่ตรงเบาะหลังคนขับใช่ไหมครับ
รศ.นพ. อดิศักดิ์ : ครับ คือการใช้ที่นั่งนิรภัย ควรจะใช้ที่เบาะหลัง เด็กควรนั่งข้างหลังรถยนต์ที่มีเบาะหลัง นั่งหน้าจะมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากกว่าการนั่งเบาะหลัง กว่า 5 เท่าตัว เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปี ควรนั่งเบาะหลัง เด็กที่อายุต่ำกว่า 9 ปี ควรใช้ที่นั่งนิรภัย แต่ถ้าสูงกว่า 9 ปี ก็อาจจะใช้เข็มขัดนิรภัยได้แล้ว แต่ควรนั่งที่เบาะหลังอยู่ดี การติดตั้งที่นั่งนิรภัย อาจต้องติดตั้งหลังผู้โดยสารหรือตรงกลางก็ได้ แต่ที่ดีที่สุดควรติดตั้งตรงกลาง เพราะจะมีเข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ยึดตัวที่นั่งนิรภัยได้ดี ในปัจจุบัน มี Air Back หรือถุงลมทางประตูด้านข้าง เพราะการติดตั้งห่างจากถุงลมนิรภัย ก็จะมีความปลอดภัยที่มากกว่า
พิธีกรข่าว : ถ้าติดเบาะด้านข้าง ควรจะเป็นหลังคนขับหรือว่าฝั่งตรงข้ามคนขับดีกว่าครับ
รศ.นพ. อดิศักดิ์ : ที่จริงก็พอๆกันนะครับ หลังคนขับหรือว่าหลังผู้โดยสารด้านข้างคนขับนะครับ
พิธีกรข่าว : ทีนี้อาจจะมีคุณพ่อ คุณแม่ บางคนนี้ บอกว่า เบาะลมทำให้ลูกนั่งสบายกว่า ลูกได้นอน ขับรถไม่เร็ว พออนุโลมไหม แบบนั้น
รศ.นพ. อดิศักดิ์ : ความสะดวกสบายนี้ เราเห็นมันเราเข้าใจอยู่แล้ว ใช้เบาะลมหรือไม่ใช้ที่นั่งนิรภัย เด็กก็สามารถปีนไปมาได้ในรถ ก็มีความสนุกสนานของเด็กอยู่แล้ว แต่ว่าไม่มีความปลอดภัยเลย เราจะสังเกตุได้ว่าแม้แต่คนขับ เรายังออกกฎหมายให้ใช้เข็มขัดนิรภัย ความปลอดภัยผู้นั่งข้างคนขับ แต่ว่าบ้านเราไม่ออกกฎหมายเกี่ยวกับที่นั่งนิรภัยเลย ดังนั้นกฎหมายเข็มขัดนิรภัยไม่มีประโยชน์สำหรับเด็ก เพราะเด็กไม่สามารถใช้เข็มขัดของรถยนต์ได้ เพราะงั้นความสะดวกสบายสนุกสนานในรถยนต์ของเด็ก จะไม่สมดุลกับความปลอดภัย อยากให้พ่อแม่คำนึงถึงความปลอดภัยการเดินทางรถยนต์มากกว่าครับ”